รีวิวหนัง The Idea of You เมื่อกระแสฮอลลีวูดเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่ากระแสหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้สุดชิลที่เคยฮิตในอดีตจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการกลับมาของแอนน์ แฮทธาเวย์ นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้มีดวงตาสวย ซึ่งโด่งดังจากหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ตั้งแต่เรื่อง The Princess Diaries (2001) นอกจากนี้ เธอยังกลับมาอีกครั้งกับหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่ The Idea of You
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายปี 2017 ของโรบินน์ ลี ซึ่งเธอทั้งแสดงนำและอำนวยการสร้าง ไมเคิล โชว์วอลเตอร์ ผู้กำกับมินิซีรีส์เรื่อง The Dropout (2022) และ The Big Sick (2017) รับหน้าที่กำกับ และเจนนิเฟอร์ เวสต์เฟลด์ นักแสดงสาวที่ผันตัวมาทำงานเบื้องหลัง รับหน้าที่กำกับ โดยร่วมดัดแปลงบทกับโชว์วอลเตอร์
‘The Idea of You’ บอกเล่าเรื่องราวของ Solen Marchand (Anne Hathaway) หญิงสาวสวยวัย 40 ปลายๆ ที่ทำงานเป็นภัณฑารักษ์ให้กับแกลเลอรีศิลปินท้องถิ่นใน Silverlake ลอสแองเจลิส ในทางกลับกัน เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวของลูกสาววัยรุ่น Izzy (Ella Rubin) วัย 16 ปี Solen วางแผนที่จะออกผจญภัยแบบตั้งแคมป์คนเดียวเพื่อฉลองอายุครบ 40 ปี
ในขณะที่ Izzy และเพื่อนๆ กำลังวางแผนเดินทางไป Coachella กับพ่อของเธอ Daniel (Reid Scott) อดีตสามีของ Solen Solen ก็ถูกบังคับให้ไปร่วมด้วย โชคชะตาพาเธอมาพบกับ Hayes Campbell (Nicholas Galitzine) สมาชิกบอยแบนด์ชื่อดัง August Moon วัย 24 ปี ผู้ซึ่งนำชีวิตของ Solen เข้าสู่โลกที่โรแมนติกและวุ่นวาย ซึ่งชื่อเสียงย่อมส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉบับแฟนด้อม สูตรสำเร็จ รีวิวหนัง The Idea of You
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเนื้อเรื่องชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง Notting Hill (1999) แน่ๆ เพราะเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้เกี่ยวกับความรักต่างชนชั้น ความรักระหว่างซุปเปอร์สตาร์กับคนธรรมดาๆ เพียงแต่สลับเพศกันเท่านั้น เรื่องนี้หนีไม่พ้นรูปแบบหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้เกี่ยวกับความรักต่างวัยต่างสถานะที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมแฟนด้อม วัฒนธรรมบอยแบนด์ที่มีไอดอล การเลือกตามความชอบ/อคติหรือเป็นแฟนคลับเฉพาะสมาชิกที่ชอบ วัฒนธรรม Meet & Greet กลเม็ดการแสดงของศิลปินบนเวที หรือแฟนๆ ที่เลิกติดตามวงแล้วติดตามอย่างอื่นตามความสนใจของตัวเอง หนังเรื่องนี้อาจไม่ลงรายละเอียดมาก แต่ก็นำเสนอแฟนด้อมในรูปแบบที่ครอบคลุมและสมบูรณ์พอสมควรรีวิวหนัง The Idea of You
รวมถึงเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้สำเร็จรูปที่ดูสนุก ซึ่งคนที่ได้ดูหนังแนวนี้มาแล้วอาจจะรู้สึกหงุดหงิดกับ 2 องก์แรกของหนังที่ยังคงมีบรรยากาศโรแมนติกคอมเมดี้แทรกอยู่ สลับกับบรรยากาศอีโรติกเรท R ที่ไม่โป๊จนเกินไป มีแค่ความเซ็กซี่เร่าร้อนเท่านั้น ถึงขนาดที่แอบรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้คืบหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอดเรื่อง ‘The Idea of You’ ไม่ได้เน้นแค่สร้าง Magic Moment หรือลูกเล่นสไตล์รอมคอม (ซึ่งน่ารังเกียจในปัจจุบัน) หรือพยายามจะยัดเยียดเวทมนตร์แห่งความรักที่ทำให้คนสองโลกได้พบกันและตกหลุมรักกันโดยบังเอิญ (เหมือนหนังโรแมนติกคอมเมดี้เก่าๆ) เท่านั้น
ส่วนที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือพยายามใส่รายละเอียดทั้งภูมิหลังของทั้งสองคน ซึ่งต่างมีภูมิหลังที่เชื่อมโยงกันในฐานะมนุษย์ มีบทสนทนา อารมณ์ขัน สถานการณ์ และจังหวะที่เป็นธรรมชาติ ถ้าเราไม่นับเคมีระหว่างคู่หลักที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน บทสนทนาก็เหมือนเครื่องมือที่เชื่อมโยงผู้คนจากสองโลกเข้าด้วยกันในตอนจบ แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเต็มไปด้วยอุปสรรคและสถานการณ์ที่แทรกเข้ามาอย่างบางเบาและลึกซึ้ง ไม่ซับซ้อนหรือเป็นปรัชญาอย่างลึกซึ้ง แต่ก็ยังทำให้หนังดูเป็นธรรมชาติและน่าดู ทำให้น่าติดตามว่าเส้นทางความรักของทั้งคู่จะไปทางไหนต่อไป แทนที่จะเป็นเพียงความฝันที่ซ้ำซาก หาก ‘Notting Hill’ จะพยายามอธิบายว่าไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มที่ขายหนังสือ
สรุป
หรือซุปเปอร์สตาร์มูลค่าหลายสิบล้านเหรียญ ล้วนเป็นมนุษย์ที่มีความสุข ความเศร้า รู้จักความรัก และต้องการได้รับความรักในแบบเดียวกัน บทสนทนาและเหตุการณ์ในหลายๆ ฉากของภาพยนตร์ก็ชี้ให้เราเห็นถึงความเปราะบาง โดยเริ่มต้นจากความเปราะบางในชีวิตของคนสองคน เพราะคนหนึ่งเป็นหญิงสาววัย 40 ปีที่ชีวิตดี๊ดีแต่มีปัญหาเรื่องความไว้วางใจ ในขณะที่อีกคนเป็นซุปเปอร์สตาร์รูปหล่อที่ต้องรักษาชื่อเสียงจนวาระสุดท้ายของวงการ รวมถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นมนุษย์ที่พยายามจะรักษาความสัมพันธ์นั้นเอาไว้ เพราะในความเป็นจริงแล้วความรักไม่ได้เกี่ยวกับคน 2 คนเท่านั้น
ตัวภาพยนตร์มีข้อสังเกตแอบแฝงว่าดูเหมือนจะเล่นแบบปลอดภัยด้วยการใส่ดราม่าหรือเรื่องน่าปวดใจเข้าไปพอสมควร แต่ตัวภาพยนตร์ก็ยังคงใส่ความขัดแย้งเข้าไป โดยเฉพาะประเด็นเรื่องอุปสรรคของความรักที่มาพร้อมชื่อเสียง อุปสรรคของทั้งคู่ไม่ได้อยู่ที่ความเข้ากันได้หรือความรักที่มีต่อกัน แต่สิ่งที่ใหญ่กว่าคือการตกเป็นเป้าของความสนใจ ตกเป็นเหยื่อของความคิดเห็นและความเกลียดชังจากคนรอบข้าง สังคม สื่อ และโซเชียลมีเดีย ที่สามารถตัดสินและถ่มน้ำลายใส่พวกเขาได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักพวกเขาดีก็ตาม
แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการเป็นผู้หญิงวัย 40 ปีที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวของลูกสาววัยรุ่น การเป็นผู้หญิงวัย 40 ปีที่สวย มีความสามารถ และมีความสุข เมื่อเธอตกเป็นเป้าของความสนใจของสังคม ดูเหมือนว่าจะยากกว่ามากที่จะหลีกหนีจากการถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้หญิงที่ล่าเหยื่อเด็ก” หรือแม้แต่ถ้าเธอไม่ได้ล่าเหยื่อเด็ก เธอก็พร้อมที่จะถูกเกลียดชังและไม่ชอบอยู่เสมอรีวิวหนัง The Idea of You
สิ่งที่ช่วยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจตลอดทั้งเรื่อง อาจเป็นคู่รักนำแสดงอย่างแฮธาเวย์และกาลิตซีน สำหรับแอนน์ แฮธาเวย์แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แอนน์ แฮทธาเวย์คือราชินีหนังรักโรแมนติกในยุค 2000 เสน่ห์ ความงาม และทักษะการแสดงของเธอยังคงเปล่งประกายและดึงดูดความสนใจอยู่เสมอ ส่วนกัลลิทซีนไม่ใช่น้องใหม่ในวงการหนังรักโรแมนติก เธอเคยแสดงนำในภาพยนตร์รักโรแมนติกแนวคิวเออร์เรื่อง ‘Red, White & Royal Blue’ (2023) ทาง Prime Video ซึ่งได้รับเสียงชื่นชม (และกำลังจะมีภาคต่อ) ไม่น่าเชื่อว่าเคมีของพวกเขาจะเข้ากันได้ดี แม้แต่ในองก์แรก ฉันก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอฉันดูต่อไปและเห็นตัวละครของคู่รักที่เข้ากันได้ดี ฉันก็เห็นและเชื่อว่าเคมีของพวกเขาเข้ากันจริงๆ
พูดตามตรง แม้ว่าเนื้อเรื่องของหนังทั้งเรื่องจะเป็นสูตรหนังรักโรแมนติกธรรมดาๆ ที่คุณบอกได้จากชื่อเรื่อง แต่ ‘The Idea of You’ ก็ยังเป็นหนังรักโรแมนติกที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของประเด็นดีๆ ที่แทรกเข้ามาอย่างเบาๆ เกี่ยวกับชีวิต ความรัก การรักษาและคงความสัมพันธ์ ความรักที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่สองคน แต่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (และไม่เกี่ยวข้องกัน) และอีกมากมาย รวมถึงความยากลำบากในการเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าสนุกที่จะคิดถึง หรืออย่างน้อยแค่การมองดูเคมีระหว่างคู่หลักก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนุกแล้ว